5 ปัจจัยเลือกซื้อคอนโดราคาโควิดเข้าพอร์ทการลงทุนให้มีแต่กำไร

การลงทุนในการ ซื้อคอนโด ฯ มีความท้าทายมาก นักลงทุนจึงต้องทำการบ้านให้ดี เพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นพร้อมกันหลายเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าที่ปรับตัวลดลงไปจนถึงระดับติดลบ
ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนักทั่วโลก ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้สามารถเปรียบได้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่จะเป็นรูปแบบคล้ายกัน นั่นคือนักลงทุนเกิดความวิตกกังวลกับการระบาดของโควิด-19
ทำให้ชะลอการ ซื้อคอนโด แต่อีกประการหนึ่งที่อสังหาริมทรัพย์ยังถือเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนยังชื่นชอบและต้องการมีไว้ในพอร์ตการลงทุนก็เพราะว่า แม้จะเกิดวิกฤตกี่ครั้งแต่ความจำเป็นของที่อยู่อาศัยก็ยังสำคัญเสมอ
เห็นได้จากช่วงล็อคดาวน์โควิด–19 ที่ผู้คนส่วนใหญ่ต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ จึงทำให้ที่อยู่อาศัยยังคงเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตที่ขาดไม่ได้เลย

.

 #เลือกซื้อคอนโดที่มีราคาพิเศษในช่วงพิเศษ ช่วงวิกฤตโควิด – 19 ที่เรามักจะเห็นคอนโดหั่นราคาต่ำกว่าทุนเป็นสิ่งที่อสังหาริมทรัพย์ไม่เคยมีมาก่อน และพบว่าดีเวลลอปเปอร์ลดราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 13%
ในขณะที่บางรายลดสูงสุดถึง 30 – 40% แถมยังมีโปรที่เชือดเฉือนกันได้น่าดึงดูดมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลด แลก แจก แถม ปรากฏการณ์ Clearance Sale, One Price ลดสูงสุด 10 ล้าน หรือ Reset Price และ โปรโมชั่นเด็ด ๆ
ดีลต่าง ๆ เช่น อยู่ฟรี 3 ปี หรือผ่อนให้ 24 เดือน การออกค่าใช้จ่ายวันโอน ซึ่งทำให้ผู้ที่สนใจลงทุนควรจะลงทุนช่วงนี้เพื่อให้ได้ราคาที่ต่ำกว่าช่วงพรีเซลล์มาก ๆ

.

 #เลือกซื้อคอนโดที่ทำเลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะสาเหตุสำคัญที่คนส่วนมากเลือกซื้อคอนโดคือ ความสะดวกสบายในการเดินทาง ดังนั้นหากอยากให้คอนโดที่ตั้งใจซื้อไว้เพื่อปล่อยเช่าหรือขายต่อเก็งกำไร
จึงควรเลือกซื้อคอนโดที่อยู่ในโซนที่มีแนวโน้มว่าจะมีอัตราการเติบโตสูง เช่น ใกล้รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน อยู่ใจกลางเมือง ติดถนนใหญ่ ไม่ไกลจากทางด่วน หรืออยู่ใกล้แหล่งงาน ใกล้ห้าง ใกล้สถานศึกษา
เพราะทำเลเหล่านี้ล้วนแต่มีคนต้องการ ทำให้ตอนอยู่อาศัยเองก็สะดวกสบาย และคุณสามารถปล่อยเช่าได้ง่ายหรือหากจะขายต่อก็จะได้กำไรหรือผลตอบแทนสูง

.

 #พื้นที่ส่วนกลางสวยงามและคำนึงถึงผู้อยู่อาศัย พื้นที่ส่วนกลางในโครงการต้องดูดี นักลงทุนที่ดีควรคำนึงถึงจุดนี้อย่างมากเพราะปัจจุบันที่อยู่อาศัยไม่ใช่เพียงเพื่ออาศัยเท่านั้น
แต่ยังต้องมีพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้ โดยสภาพภายในห้องโทรมยังพอซ่อมได้ แต่สภาพภายในโครงการโทรมซ่อมยาก
ต้องแจ้งผ่านคณะกรรมการนิติบุคคล หลายแห่งมีเงินไม่พอซ่อม เพราะเกิดปัญหาค้างชำระค่าส่วนกลาง

.

 #มีการนำเทคโนโลยียุคใหม่มาใช้กับโครงการ นวัตกรรมเพื่อที่อยู่อาศัย ยุค 4.0 ยุคแห่ง “Digital Disruption” ได้เข้ามาพลิกโฉมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จนทำให้เกิด “New Normal” หรือ “บรรทัดฐานใหม่”
ให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ทันในยุค โดยนำ Technology เข้ามาต่อยอดธุรกิจ Property ที่เรียกว่า Property Technology
ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี Smart Home ที่ช่วยควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ทำให้ประหยัดการใช้พลังงานภายในห้อง ระบบ EV Charger ที่ตอบโจทย์เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต
อีกทั้งยังตอบสนองนโยบายด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงระบบ Auto Parking เป็นอีกหนึ่งความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับความปลอดภัย ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตของการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมให้ดีมากยิ่งขึ้น

.

 #คำนึงถึงช่วงเวลาการลงทุน ช่วงเวลาในการลงทุน ไม่จะเป็น “ระยะสั้น” หรือ “ระยะยาว” เมื่อมีการลงทุนเกิดขึ้น แน่นอนว่าต้องมีความคาดหวังของผลตอบแทน สำหรับการลงทุนในคอนโดมิเนียมนั้นมักมาในรูปแบบของการขายใบจอง
ขายต่อ หรือปล่อยเช่า ซึ่งก็มีความเสี่ยงว่าจะมีผู้ซื้อหรือคนมาเช่าได้ตลอดหรือไม่ สำหรับ ”การลงทุนระยะสั้น” เป็นการลงทุนที่หวังส่วนต่างจากการขาย ดังนั้นการเลือกลงทุนประเภทนี้จึงต้องซื้อให้ได้ในราคาถูก
เช่น การซื้อรอบพรีเซล หรือการซื้อต่อจากคนที่ไม่พร้อมโอนกรรมสิทธิ์ จะทำให้สามารถซื้อต่อในราคาที่ถูกกว่าหน้าสัญญา นอกจากนี้การเลือกลงทุนระยะสั้นควรเลือกลงทุนในคอนโดมิเนียมที่มีทำเลดี
มีความต้องการอยู่อาศัยสูงหรือกำลังมาแรงในขณะนั้น เรียกได้ว่าการลงทุนประเภทนี้ต้องอาศัยความเร็วและความแม่นยำเพื่อที่จะศึกษาและสามารถซื้อลงทุนได้เร็วกว่าคนอื่น ซึ่งหากมีความเชี่ยวชาญระดับหนึ่งก็สามารถทำกำไรจากการลงทุนประเภทนี้ได้สูง

ส่วน “การลงทุนระยะยาว” เป็นการลงทุนที่หวังใน cash flow หรือกระแสเงินสดจากค่าเช่า ดังนั้นการลงทุนประเภทนี้จะต้องให้ผลตอบแทนค่าเช่าที่ค่อนข้างดีและมีความต้องการเช่าอยู่อาศัยสูง
ซึ่งผลตอบเเทนจากค่าเช่าควรมากกว่า 5% และโครงการควรมีอัตราการถือครอบครองห้องมากกว่า 80% ขึ้นไป

.

ปัจจุบันตลาดคอนโดมิเนียมมีหลายรูปแบบทั้งที่ผุ้พัฒนาออกแบบให้เพื่ออยู่อาศัยเอง ออกแบบมาเพื่อนักลงทุน ซึ่งแต่ละโครงการจะตั้งอยู่บนทำเลที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้เองการการันตีผลตอบแทน (Yield Guarantee)
ในแง่มุมของนักลงทุนหรือนักธุรกิจถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบหนึ่งที่ทางโครงการกำหนดผลประโยชน์เป็นตัวเลขและเวลาที่ชัดเจนเพื่อคืนให้กับผู้ซื้อหรือนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนในขณะที่ถือครองอสังหา ฯ ชิ้นนั้น
เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์โครงการนี้ สามารถคืนผลประโยชน์กลับมาให้กับผู้ซื้อได้จริง ซึ่งจะมีบริการในการนำอสังหาริมทรัพย์ของผู้ซื้อไปปล่อยเช่าให้แล้วคืนผลประโยชน์กลับมาเป็นผลกำไร
โดยคิดคำนวนเป็น % ต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะได้ผลกำไรตามจริงที่โครงการบอกไว้หรืออาจไม่ถึงแต่ใกล้เคียง ซึ่งทั้งนี้เพื่อความแน่ใจก่อนตัดสินใจลงทุนเราสามารถนำ % ของผลตอบแทนที่โครงการการันตีมาเปรียบเทียบกับข้อมูลต่าง ๆ

.

สุดท้ายนี้หลายคนที่คิดจะลงทุนซื้อคอนโดราคาโควิดเข้าพอร์ท คงคลายความสงสัยไปได้ไม่มากก็น้อยแต่การลงทุนในรูปแบบนี้นอกจากการคิดคำนวณเป็นผลกำไรที่โครงการการันตีแล้ว
ก็ควรเลือกโครงการที่สามารถลงทุนในระยะยาวได้และสามารถขายต่อได้ในอนาคตในราคาที่ดีกว่าตอนซื้อด้วยอ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : https://shinyurealestate.com/article/category/knowledge

หรือ https://www.facebook.com/Shinyu-Real-Estate-Official-100529669046345